ฉันเป็นผู้หญิงคนนึง
และเหมือนกับผู้หญิงหลายๆคน
ที่มีความรัก
เวลาที่รักใคร ก็รัก และทุ่มเท
สม่ำเสมอ และ ซื่อสัตย์
แล้วเคยไหมที่พบว่า
ความรักและความซื่อสัตย์
มันไร้ค่าและไม่มีเคยเลยที่จะมีความหมาย
กับผู้ชายคนนึง ที่เรารักมากมาย
คนที่เรารักมากมาย
ไปหาผู้หญิงคนอื่น ไปดูแลคนอื่น
ไปให้ความรักความสำคัญกับผู้หญิงคนอื่น
เราเป็นได้เพียงคนแก้เหงา
คุณผู้ชายทั้งหลาย
ทำไมคุณต้องทำแบบนั้นกับเราด้วย
คุณเคยทำแบบนี้กับใครไหม
. ไปมีอะไรกับผู้ญิงคนอื่น แล้วคนที่รักคุณก้อรับรู้
. โทรหาผู้หญิงคนอื่นทุกวัน แล้วคนที่รักคุณก้อรับรู้
. ไปเที่ยวกับผู้หญิงคนอื่นทุกวัน แล้วคนที่รักคุณก็รับรู้
. สร้างหลักฐานกลับมา เป็นรอยจ้ำที่คอ หรือรูปถ่าย
อิงแอบชิดใกล้ แล้วคนที่รักคุณก้อรับรู้
หากคนรักคุณถาม คุณก้อกลับมีอารมณ์ และยิ่งทำ
อีก ให้เค้ายิ่งเจ็บปวด
เราทำอะไรพวกคุณไม่ได้ นอกจากร้องไห้
. . . . . . . . . . . . . . . .
ผู้ชายคงไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกคน
และขอขอบคุณที่คุณไม่เป็นคนแบบนั้น
หากคุณไม่รักเขาจริงจริง และให้ความซื่อสัตย์กับเขาไม่ได้
ปล่อยผู้หญิงคนนั้นไปเถอะ
ฉันไม่อยากให้ใครทุกข์ทรมานเหมือนกับฉันเลย
และผู้ชายที่ทำแบบนี้
จิตใจคุณทำด้วยอะไร
และใครก้อตามที่กำลังเผชิญเรื่องเลวร้ายนี้อยู่
เดินออกจากนรกนี้ไปซะ
อย่าเสียใจให้กับคนแบบนี้เลย
16/1/53
21/10/52
ธรรมมะ
= = = = ความสุข ความทุกข์ ราคาเสมอกัน = = = =
บล็อกเรื่องนี้ เขียนโดย ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย
นำมาจาก เว็บบอร์ด palungjit.com
วันหนึ่งผู้เขียนได้รับหนังสือแจกในงานศพของใครคนหนึ่ง ซึ่งมีผู้มาบริจาคไว้ที่ห้องสมุดที่วัด
พลิกดูผ่านๆ พลันก็ได้พบกับคำคมของ หลวงพ่อชา สุภัทโท พระวิปัสสนาจารย์ ผู้มีชื่อเสียงขจรไกลไปทั่วโลก
และเพราะคำคมของท่าน ทำให้ต้องกลับมาพลิกอ่านหนังสือเล่มนั้นต่อไปจนจบ
หลวงพ่อชา กล่าวว่า
“ทุกอย่างในโลกนี้มันถูกอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด”
คำของหลวงพ่อ ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่อุดมด้วยเนื้อหาแห่งสัจธรรมที่ไม่อาจปฏิเสธ
ด้วยประโยคง่ายๆ นี้เอง ทำให้นึกถึงพระพักตร์ของพระพุทธองค์ที่มักจะทรงแย้มสรวลด้วยความผ่อนคลายและเปี่ยมด้วยเมตตาอยู่เสมอ
ยามที่มีสัตว์โลกผู้ถูกความทุกข์ท่วมทับจนทุกข์หนักหนาสาหัสแทบล้มประดาตาย เข้าไปกราบขอให้พระองค์ทรงเป็นที่พึ่ง
แต่ทุกครั้งที่มีสัตว์ผู้ตกทุกข์ได้ยากเข้าไปเฝ้าขอพึ่งพระบารมี ไม่มีเลยแม้แต่ครั้งเดียวที่พระองค์จะทรงตกพระทัย หรือทรงเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่จนทรงสูญเสียปกติภาพ
ตรงกันข้าม พระองค์กลับทรงปฏิสัมพันธ์ต่อความสุข ความทุกข์ ของมนุษยชาติ ด้วยราคาเดียวกัน อย่างเสมอต้นเสมอปลาย
ที่เป็นเช่นนี้ นั่นคงเป็นเพราะทรงตระหนักเป็นอย่างดีว่า
“ทุกอย่างในโลกนี้มันถูกอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด”
คราวหนึ่งมีสตรีชาวบ้านคนหนึ่งถูกความทุกข์อันเนื่องมาจากการสูญเสียลูกชายครอบงำจนวิกลจริต
เธอไม่อนุญาตให้มีการฌาปนกิจศพลูก เพราะเชื่อมั่นว่า ลูกยังไม่ตาย หรือถึงตายไปแล้ว แต่ก็ต้องมียาวิเศษที่จะชุบชีวิตลูกให้ฟื้นขึ้นมาจนได้
วันหนึ่ง เธออุ้มศพลูกน้อยที่เริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็น ซมซานไปจนถึงพุทธสำนัก
เมื่ออยู่ต่อพระพักตร์พระพุทธองค์แล้ว เธอจึงได้สติ พลางกราบทูลถามว่า
พระองค์สามารถจะเยียวยาลูกชายของเธอ ให้ฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาดังเดิมได้หรือไม่
ทรงทอดพระเนตรดูเธอ ผู้กรมเกรียมเพราะถูกไฟแห่งความพลัดพรากแผดเผามายาวนาน
พลางแย้มพระสรวลด้วยเมตตา ตรัสแก่เธอว่า
“น้องหญิง เราสามารถชุบชีวิตลูกชายของเธอได้
แต่ว่า เธอต้องไปหาเมล็ดผักกาดจากเรือนที่ยังไม่เคยมีคนตายมาก่อน มาให้เราสักหนึ่งกำมือเถิด
ถ้าได้เมล็ดผักกาดจากเรือนที่ยังไม่เคยมีคนตายมาแล้ว เราตถาคต จะปรุงยาชุบชีวิตลูกชายของเธอด้วยเมล็ดผักกาดนั้น”
หญิงสาวดีใจจนน้ำตาไหล เธอออกเดินทางจากพระอาราม มุ่งหน้าเข้าสู่หมู่บ้าน เพื่อขอเมล็ดผักกาดจากบ้านที่ยังไม่เคยมีคนตาย
แต่จนแล้วจนรอด เธอกลับได้รับแต่คำตอบปฏิเสธ จากทุกหลังคาเรือนที่เธอเอ่ยปากถาม
เมล็ดผักกาดนั้น จะหาจากเรือนหลังไหนก็ได้
แต่พอเธอเสนอเงื่อนไขที่สองที่ว่า “จากบ้านที่ยังไม่เคยมีคนตาย”
เมล็ดผักกาดก็กลายเป็นของหายากขึ้นมาทันที
คุณแม่ยังสาวผู้สูญเสียลูกชาย อุ้มศพลูกน้อยเดินขึ้นเดินลงจากเรือนหลังนั้น สู่หลังนี้
แต่ทุกหลังคาเรือนที่เธอไปเยือน ล้วนแต่มีคำตอบปฏิเสธ
เรือนหลังไหนๆ บ้านหลังไหนๆ ก็ล้วนแล้วแต่เคยมีคนตายมาก่อนแล้วทั้งนั้น
ในที่สุด ทุกๆ คำตอบปฏิเสธ ก็ได้สอนบทเรียนบทหนึ่งให้แก่เธอว่า
“ความตายเป็นของธรรมดา ใช่แต่เพียงลูกชายของเราเท่านั้น ที่ต้องตาย
แท้ที่จริง คนในโลก ล้วนแต่จะต้องตายเหมือนกันทั้งหมด โดยไม่มีข้อยกเว้น”
พลันที่จิตตื่นรู้ อันเป็นผลจากประสบการณ์ตรงที่เกิดแต่การเที่ยวหาเมล็ดผักกาดจากบ้านที่ยังไม่เคยมีคนตาย
เมฆหมอกแห่งความทุกข์ ก็คลี่คลายหายห่างออกไปจากชีวิตของเธอ
หญิงสาวยินยอมให้มีการเผาศพลูกชายโดยดุษฎี
จากนี้จึงตรงไปเฝ้าพระพุทธองค์ กราบทูลรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ตรงให้ทรงทราบ
สิ้นเสียงกราบทูลรายงานความคืบหน้าในทางธรรมของเธอแล้ว
พระบรมครูทรงแย้มพระสรวลน้อยๆ พระพักตร์เจือด้วยพระเมตตาเต็มเปี่ยม
นาทีนั้น หญิงสาวเข้าใจทันทีว่า สำหรับพระองค์แล้ว ความทุกข์ ความสุข มีราคาเดียวกันจริงๆ
นับแต่นั้นเป็นต้นมา อดีตคุณแม่ผู้ถูกความพลัดพรากจู่โจมจนวิกลจริต จึงหันหน้าเข้าเส้นทางธรรม
อุทิศตนบวชเป็นภิกษุณีในพระธรรมวินัย และกลายเป็นพระอรหันต์ภายในเวลาไม่นานนัก
คำของหลวงพ่อชาที่ว่า
“ทุกอย่างในโลกนี้มันถูกอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด”
เป็นถ้อยคำสำคัญมาก
คำๆ นี้ เปลี่ยนชีวิตคนมาแล้วมากต่อมาก มิน่าเล่าเมื่อแรกที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนา
จึงทรงเริ่ม มรรคมีองค์ ๘ ด้วย “สัมมาทิฐิ”
“สัมมาทิฐิ” คือ การเห็นชอบ การเห็นถูก การเห็นตรง (ตามความเป็นจริง)
การเห็นชอบ = การเห็นถูก
การเห็นถูก = การเห็นตรง
การเห็นตรง = การเห็นไม่ผิด
ที่ว่าเห็นไม่ผิด คือ เห็นสอดคล้องกับความจริงที่เป็นจริงของมันอย่างนั้นเอง
“ทุกชีวิตเกิดมาล้วนต้องตาย”
นี่เป็นความจริงอันเป็นสัจธรรมของโลก
หากคนส่วนใหญ่เห็นความตายตามความเป็นจริงอย่างตรงไปตรงมา
ความทุกข์เพราะความตาย คงไม่ใช่ความทุกข์อันยิ่งใหญ่
หรือบางที อาจไม่เป็นความทุกข์เลยด้วยซ้ำ
ปราชญ์ทางพุทธธรรมท่านหนึ่งกล่าวว่า
“มีแต่ความตาย ไม่มีผู้ตาย”
นี่เป็นความจริงที่ลึกซึ้งกว่าข้อความข้างต้นอีกชั้นหนึ่ง
หากเราทุกคนมองเห็นความจริงตามความเป็นจริงเช่นนี้ได้ ความตายคงไม่ใช่เรื่องน่ากลัวแม้แต่น้อย
แต่ก็นั่นแหละ การเห็นตามความเป็นจริง ไม่ใช่เรื่องง่าย
และเพราะไม่ใช่เรื่องง่ายนั่นเอง
ความตายจึงยังคงเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนทั่วไปอยู่จนทุกวันนี้
ทว่าสำหรับผู้ฝึกตนจนมีสัมมาปัญญาแล้ว
ท่านเหล่านั้นล้วนปฏิสัมพันธ์ต่อความสุข ความทุกข์ด้วยราคาเดียวกัน
สุขก็ธรรมดา
ทุกข์ก็ธรรมดา
มีแต่ธรรมดาเท่านั้นเกิดขึ้น
มีแต่ธรรมดาเท่านั้นดำรงอยู่
มีแต่ธรรมดาเท่านั้นแตกดับไป
นอกจากธรรมดาแล้ว ไม่มีอะไรเกิด ไม่มีอะไรดับ
ใครเห็นธรรมดา คนนั้น เห็นธรรม ใครเห็นธรรม คนนั้นเห็นธรรมดา
ใจที่เห็นธรรมดา เป็นใจที่ไม่หวั่นไหวเพราะสุขและทุกข์อีกต่อไป
เนื่องเพราะ สุขและทุกข์ ไม่ใช่สองด้านของเหรียญอันเดียวกัน
แต่เป็นด้านเดียวกันมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ไปสร้างสมมุติซ้อนขึ้นมา
ว่าสุขและทุกข์เป็นด้านทั้งสองของเหรียญแห่งชีวิตอันเดียวกัน
ธรรมสวัสดี
บล็อกเรื่องนี้ เขียนโดย ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย
นำมาจาก เว็บบอร์ด palungjit.com
วันหนึ่งผู้เขียนได้รับหนังสือแจกในงานศพของใครคนหนึ่ง ซึ่งมีผู้มาบริจาคไว้ที่ห้องสมุดที่วัด
พลิกดูผ่านๆ พลันก็ได้พบกับคำคมของ หลวงพ่อชา สุภัทโท พระวิปัสสนาจารย์ ผู้มีชื่อเสียงขจรไกลไปทั่วโลก
และเพราะคำคมของท่าน ทำให้ต้องกลับมาพลิกอ่านหนังสือเล่มนั้นต่อไปจนจบ
หลวงพ่อชา กล่าวว่า
“ทุกอย่างในโลกนี้มันถูกอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด”
คำของหลวงพ่อ ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่อุดมด้วยเนื้อหาแห่งสัจธรรมที่ไม่อาจปฏิเสธ
ด้วยประโยคง่ายๆ นี้เอง ทำให้นึกถึงพระพักตร์ของพระพุทธองค์ที่มักจะทรงแย้มสรวลด้วยความผ่อนคลายและเปี่ยมด้วยเมตตาอยู่เสมอ
ยามที่มีสัตว์โลกผู้ถูกความทุกข์ท่วมทับจนทุกข์หนักหนาสาหัสแทบล้มประดาตาย เข้าไปกราบขอให้พระองค์ทรงเป็นที่พึ่ง
แต่ทุกครั้งที่มีสัตว์ผู้ตกทุกข์ได้ยากเข้าไปเฝ้าขอพึ่งพระบารมี ไม่มีเลยแม้แต่ครั้งเดียวที่พระองค์จะทรงตกพระทัย หรือทรงเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่จนทรงสูญเสียปกติภาพ
ตรงกันข้าม พระองค์กลับทรงปฏิสัมพันธ์ต่อความสุข ความทุกข์ ของมนุษยชาติ ด้วยราคาเดียวกัน อย่างเสมอต้นเสมอปลาย
ที่เป็นเช่นนี้ นั่นคงเป็นเพราะทรงตระหนักเป็นอย่างดีว่า
“ทุกอย่างในโลกนี้มันถูกอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด”
คราวหนึ่งมีสตรีชาวบ้านคนหนึ่งถูกความทุกข์อันเนื่องมาจากการสูญเสียลูกชายครอบงำจนวิกลจริต
เธอไม่อนุญาตให้มีการฌาปนกิจศพลูก เพราะเชื่อมั่นว่า ลูกยังไม่ตาย หรือถึงตายไปแล้ว แต่ก็ต้องมียาวิเศษที่จะชุบชีวิตลูกให้ฟื้นขึ้นมาจนได้
วันหนึ่ง เธออุ้มศพลูกน้อยที่เริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็น ซมซานไปจนถึงพุทธสำนัก
เมื่ออยู่ต่อพระพักตร์พระพุทธองค์แล้ว เธอจึงได้สติ พลางกราบทูลถามว่า
พระองค์สามารถจะเยียวยาลูกชายของเธอ ให้ฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาดังเดิมได้หรือไม่
ทรงทอดพระเนตรดูเธอ ผู้กรมเกรียมเพราะถูกไฟแห่งความพลัดพรากแผดเผามายาวนาน
พลางแย้มพระสรวลด้วยเมตตา ตรัสแก่เธอว่า
“น้องหญิง เราสามารถชุบชีวิตลูกชายของเธอได้
แต่ว่า เธอต้องไปหาเมล็ดผักกาดจากเรือนที่ยังไม่เคยมีคนตายมาก่อน มาให้เราสักหนึ่งกำมือเถิด
ถ้าได้เมล็ดผักกาดจากเรือนที่ยังไม่เคยมีคนตายมาแล้ว เราตถาคต จะปรุงยาชุบชีวิตลูกชายของเธอด้วยเมล็ดผักกาดนั้น”
หญิงสาวดีใจจนน้ำตาไหล เธอออกเดินทางจากพระอาราม มุ่งหน้าเข้าสู่หมู่บ้าน เพื่อขอเมล็ดผักกาดจากบ้านที่ยังไม่เคยมีคนตาย
แต่จนแล้วจนรอด เธอกลับได้รับแต่คำตอบปฏิเสธ จากทุกหลังคาเรือนที่เธอเอ่ยปากถาม
เมล็ดผักกาดนั้น จะหาจากเรือนหลังไหนก็ได้
แต่พอเธอเสนอเงื่อนไขที่สองที่ว่า “จากบ้านที่ยังไม่เคยมีคนตาย”
เมล็ดผักกาดก็กลายเป็นของหายากขึ้นมาทันที
คุณแม่ยังสาวผู้สูญเสียลูกชาย อุ้มศพลูกน้อยเดินขึ้นเดินลงจากเรือนหลังนั้น สู่หลังนี้
แต่ทุกหลังคาเรือนที่เธอไปเยือน ล้วนแต่มีคำตอบปฏิเสธ
เรือนหลังไหนๆ บ้านหลังไหนๆ ก็ล้วนแล้วแต่เคยมีคนตายมาก่อนแล้วทั้งนั้น
ในที่สุด ทุกๆ คำตอบปฏิเสธ ก็ได้สอนบทเรียนบทหนึ่งให้แก่เธอว่า
“ความตายเป็นของธรรมดา ใช่แต่เพียงลูกชายของเราเท่านั้น ที่ต้องตาย
แท้ที่จริง คนในโลก ล้วนแต่จะต้องตายเหมือนกันทั้งหมด โดยไม่มีข้อยกเว้น”
พลันที่จิตตื่นรู้ อันเป็นผลจากประสบการณ์ตรงที่เกิดแต่การเที่ยวหาเมล็ดผักกาดจากบ้านที่ยังไม่เคยมีคนตาย
เมฆหมอกแห่งความทุกข์ ก็คลี่คลายหายห่างออกไปจากชีวิตของเธอ
หญิงสาวยินยอมให้มีการเผาศพลูกชายโดยดุษฎี
จากนี้จึงตรงไปเฝ้าพระพุทธองค์ กราบทูลรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ตรงให้ทรงทราบ
สิ้นเสียงกราบทูลรายงานความคืบหน้าในทางธรรมของเธอแล้ว
พระบรมครูทรงแย้มพระสรวลน้อยๆ พระพักตร์เจือด้วยพระเมตตาเต็มเปี่ยม
นาทีนั้น หญิงสาวเข้าใจทันทีว่า สำหรับพระองค์แล้ว ความทุกข์ ความสุข มีราคาเดียวกันจริงๆ
นับแต่นั้นเป็นต้นมา อดีตคุณแม่ผู้ถูกความพลัดพรากจู่โจมจนวิกลจริต จึงหันหน้าเข้าเส้นทางธรรม
อุทิศตนบวชเป็นภิกษุณีในพระธรรมวินัย และกลายเป็นพระอรหันต์ภายในเวลาไม่นานนัก
คำของหลวงพ่อชาที่ว่า
“ทุกอย่างในโลกนี้มันถูกอยู่แล้ว มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ผิด”
เป็นถ้อยคำสำคัญมาก
คำๆ นี้ เปลี่ยนชีวิตคนมาแล้วมากต่อมาก มิน่าเล่าเมื่อแรกที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนา
จึงทรงเริ่ม มรรคมีองค์ ๘ ด้วย “สัมมาทิฐิ”
“สัมมาทิฐิ” คือ การเห็นชอบ การเห็นถูก การเห็นตรง (ตามความเป็นจริง)
การเห็นชอบ = การเห็นถูก
การเห็นถูก = การเห็นตรง
การเห็นตรง = การเห็นไม่ผิด
ที่ว่าเห็นไม่ผิด คือ เห็นสอดคล้องกับความจริงที่เป็นจริงของมันอย่างนั้นเอง
“ทุกชีวิตเกิดมาล้วนต้องตาย”
นี่เป็นความจริงอันเป็นสัจธรรมของโลก
หากคนส่วนใหญ่เห็นความตายตามความเป็นจริงอย่างตรงไปตรงมา
ความทุกข์เพราะความตาย คงไม่ใช่ความทุกข์อันยิ่งใหญ่
หรือบางที อาจไม่เป็นความทุกข์เลยด้วยซ้ำ
ปราชญ์ทางพุทธธรรมท่านหนึ่งกล่าวว่า
“มีแต่ความตาย ไม่มีผู้ตาย”
นี่เป็นความจริงที่ลึกซึ้งกว่าข้อความข้างต้นอีกชั้นหนึ่ง
หากเราทุกคนมองเห็นความจริงตามความเป็นจริงเช่นนี้ได้ ความตายคงไม่ใช่เรื่องน่ากลัวแม้แต่น้อย
แต่ก็นั่นแหละ การเห็นตามความเป็นจริง ไม่ใช่เรื่องง่าย
และเพราะไม่ใช่เรื่องง่ายนั่นเอง
ความตายจึงยังคงเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนทั่วไปอยู่จนทุกวันนี้
ทว่าสำหรับผู้ฝึกตนจนมีสัมมาปัญญาแล้ว
ท่านเหล่านั้นล้วนปฏิสัมพันธ์ต่อความสุข ความทุกข์ด้วยราคาเดียวกัน
สุขก็ธรรมดา
ทุกข์ก็ธรรมดา
มีแต่ธรรมดาเท่านั้นเกิดขึ้น
มีแต่ธรรมดาเท่านั้นดำรงอยู่
มีแต่ธรรมดาเท่านั้นแตกดับไป
นอกจากธรรมดาแล้ว ไม่มีอะไรเกิด ไม่มีอะไรดับ
ใครเห็นธรรมดา คนนั้น เห็นธรรม ใครเห็นธรรม คนนั้นเห็นธรรมดา
ใจที่เห็นธรรมดา เป็นใจที่ไม่หวั่นไหวเพราะสุขและทุกข์อีกต่อไป
เนื่องเพราะ สุขและทุกข์ ไม่ใช่สองด้านของเหรียญอันเดียวกัน
แต่เป็นด้านเดียวกันมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
มีแต่ความเห็นของเราเท่านั้นที่ไปสร้างสมมุติซ้อนขึ้นมา
ว่าสุขและทุกข์เป็นด้านทั้งสองของเหรียญแห่งชีวิตอันเดียวกัน
ธรรมสวัสดี
29/9/52
อ่านแล้วคิดตามนะ
พ่อทำงาน อาบ แดดถูกแผดเผา
ลูกดื่ม เหล้าฟังเพลงคลื้นเครงเหลือ
แม่ขายผัก กินข้าวเคล้ากับเกลือ!
ลูกเอื้อ เฟื้อพาสาวเที่ยวเลี้ยวโฮเตล
พ่อหาเงิน ส่งลูกเรียนเพียรอุตส่าห์
ลูกติดยาคบ เพื่อนชั่วมั่วให้เห็น
แม่กระหาย ดื่มน้ำคลองตอนกลองเพล
ลูกทะเล้น จิบวายแดงแพงจับใจ
พ่ออดอยาก ไม่เคยบ่นทนลำบาก
ลูกมักมาก เพศส ัมพันธ์มันส์ชิบหาย
แม่ทอผ้า ปลูกหม่อนหารายได้
ลูกหญิงชาย เที่ยวสนุกโรคติดตัว
พ่อสูบน้ำ เข้าแปลงนาปลูกข้าวกล้า
ลูกมัวเมา การพนันหมั่นหาผัว
แม่หาบน้ำ เลี้ยงเป็ดไก่ทำสวนครัว
ลูกใจชั่ว ใช้เงินเพลินเดินหลงทาง
พ่อขายวัว ส่งควายเรียนเวียนศรีษะ
ลูกตะกะกิน ฟาสฟู๊ตพูดกว้างขวาง
แม่ปวด เมื่อยสู้งานหนักไม่ละวาง
ลูกสำอาง ใช้ ของแพงแข่งสังคม
พ่อผอมแห้ง เรื่ยวแรงน้อยด้อยอาหาร
ลูกประพฤติ อันตพาลล่าเสพสม
แม่เป็นดอก ทบต้นหมดอารมณ์
ลูกเขี้ยว คม ฆ่าพ่อแม่ก่อนแก่ตาย
ลูกดื่ม เหล้าฟังเพลงคลื้นเครงเหลือ
แม่ขายผัก กินข้าวเคล้ากับเกลือ!
ลูกเอื้อ เฟื้อพาสาวเที่ยวเลี้ยวโฮเตล
พ่อหาเงิน ส่งลูกเรียนเพียรอุตส่าห์
ลูกติดยาคบ เพื่อนชั่วมั่วให้เห็น
แม่กระหาย ดื่มน้ำคลองตอนกลองเพล
ลูกทะเล้น จิบวายแดงแพงจับใจ
พ่ออดอยาก ไม่เคยบ่นทนลำบาก
ลูกมักมาก เพศส ัมพันธ์มันส์ชิบหาย
แม่ทอผ้า ปลูกหม่อนหารายได้
ลูกหญิงชาย เที่ยวสนุกโรคติดตัว
พ่อสูบน้ำ เข้าแปลงนาปลูกข้าวกล้า
ลูกมัวเมา การพนันหมั่นหาผัว
แม่หาบน้ำ เลี้ยงเป็ดไก่ทำสวนครัว
ลูกใจชั่ว ใช้เงินเพลินเดินหลงทาง
พ่อขายวัว ส่งควายเรียนเวียนศรีษะ
ลูกตะกะกิน ฟาสฟู๊ตพูดกว้างขวาง
แม่ปวด เมื่อยสู้งานหนักไม่ละวาง
ลูกสำอาง ใช้ ของแพงแข่งสังคม
พ่อผอมแห้ง เรื่ยวแรงน้อยด้อยอาหาร
ลูกประพฤติ อันตพาลล่าเสพสม
แม่เป็นดอก ทบต้นหมดอารมณ์
ลูกเขี้ยว คม ฆ่าพ่อแม่ก่อนแก่ตาย
MAKE A GOOD PRESENTATION
MAKE A GOOD PRESENTATION
How to make god presentation
1. Do use PowerPoint if the facilities are available. Although some speakers seem to have taken an aversion to PowerPoint, it is so convenient and ensures that your presentation has a clear structure and something for your listeners to take away.
2. Be very clear about how much time you have and stick to that time in preparing your presentation. It's very difficult to 'cut' a PowerPoint presentation at the event itself, so it's a great mistake to run out of time. Most presenters prepare too much material; but nobody ever complains that a presentation was too short (it always allows more time for questions).
3. Be very clear about your key message and ensure that everything in your presentation is both consistent with, and supportive of, that key message. You should be able to articulate the message in a phrase or a sentence and indeed you might want to use that phrase or sentence in one of your first slides, or one of your last, or even both.
4. E-mail your presentation to the event organizers in advance. Ask them to load it onto a laptop, run it through, check that it looks fine, and confirm that with you. Then you don't have to worry about the technology when you arrive at the venue; you can concentrate on the delivery of your material. Also it enables the event's organizers to run off copies of your slides, so that they are available to them in good time.
5. The first slide should announce the title of your presentation, the event and date, and your name and position. This may seem terribly obvious, but many speakers miss off some of this basic information and then weeks later listeners (or their colleagues back at the organization) are not clear who made the presentation or when. You should try to make the title catchy, so that you immediately have the interest of your audience. A challenging question works well - for instance, a presentation on the global economic crisis might ask: "Is this the end of capitalism as we've known it?" Or a play on words works too - for example, a presentation on next generation broadband could be titled "The Slow Arrival of Fast Broadband".
6. The second slide should seize the attention of your audience for your presentation. It could be the central proposition of your presentation or a conventional wisdom that you wish to challenge or a relevant or witty quote from a leader in your field. If it is amusing or controversial or both, so much the better.
7. The third slide should set out the structure of your presentation. The default structure should consist of three themes that you intend to examine. For a very short presentation, there might only be time for two; if you want to look at more than five areas, write a book instead.
8. Each theme should be the subject of a small number of slides. Again, a good working assumption is that three slides for each them is about right. Less than two and it isn't substantive enough to be a separate theme; more than five and it should probably be broken up into two themes.
9. Each slide should have clear heading. A question is often a good way of winning attention - but, in that case, making sure you answer the question in the body of the slide.
10. Each slide should normally contain around 25-35 words, unless it is a quote (when you might use more) or contains an illustration (when you will probably use less). Too many words and your audience will have trouble reading the material; too few words and you're likely to be flashing through the slides and spending too much time clicking the mouse.
11. Each bullet point should consist of an intelligible phrase, rather than merely a word or two that is meaningless on its own or conversely a complete sentence that is better delivered orally. So, for instance, do use "Focus on profitable and growing markets" rather than simply "Focus" or "Markets" or "It is necessary to focus on those markets which are profitable and growing rather than those which are loss-making and declining". Consider this test: your slides should make sense and be useful to someone who was not present at your presentation.
12. Make appropriate use of pictures. It's a good idea to break up text with illustrations and it is true that a picture is worth a thousand words.
13. The last slide should set out all appropriate contact details: certainly e-mail address and possibly snail mail address, the web site of your organization, and any personal website or web log if you have one.
13. Make copies of your slides available. It is a matter of preference whether you do this at the beginning of your presentation or at the end. If your listeners have copies at the beginning, they can take notes simply by annotating the slides, instead of having to note down all the information on the slides. On the other hand, you might feel that, if they can see in advance the slides you are going to use, you lose the element of control or surprise. It might depend on the content of the presentation: if you are going to show detailed tables or graphs with lots of figures, your audience will probably find it easier to have a copy on their lap. It might depend on the circumstances of the presentation: if there is a large audience, people at the back may not be able to see the screen clearly and would really appreciate having copies of the slides.
Presentation Tips for Public Speaking
Know the needs of your audience and match your contents to their needs. Know your material thoroughly. Put what you have to say in a logical sequence. Ensure your speech will be captivating to your audience as well as worth their time and attention. Practice and rehearse your speech at home or where you can be at ease and comfortable, in front of a mirror, your family, friends or colleagues. Use a tape-recorder and listen to yourself. Videotape your presentation and analyze it. Know what your strong and weak points are. Emphasize your strong points during your presentation.
When you are presenting in front of an audience, you are performing as an actor is on stage. How you are being perceived is very important. Dress appropriately for the occasion. Be solemn if your topic is serious. Present the desired image to your audience. Look pleasant, enthusiastic, confident, proud, but not arrogant. Remain calm. Appear relaxed, even if you feel nervous. Speak slowly, enunciate clearly, and show appropriate emotion and feeling relating to your topic. Establish rapport with your audience. Speak to the person farthest away from you to ensure your voice is loud enough to project to the back of the room. Vary the tone of your voice and dramatize if necessary. If a microphone is available, adjust and adapt your voice accordingly.
1. Body language is important. Standing, walking or moving about with appropriate hand gesture or facial expression is preferred to sitting down or standing still with head down and reading from a prepared speech. Use audio-visual aids or props for enhancement if appropriate and necessary. Master the use of presentation software such as PowerPoint well before your presentation. Do not over-dazzle your audience with excessive use of animation, sound clips, or gaudy colors which are inappropriate for your topic. Do not torture your audience by putting a lengthy document in tiny print on an overhead and reading it out to them.
2. Speak with conviction as if you really believe in what you are saying. Persuade your audience effectively. The material you present orally should have the same ingredients as that which are required for a written research paper, i.e. a logical progression from INTRODUCTION (Thesis statement) to BODY (strong supporting arguments, accurate and up-to-date information) to CONCLUSION (re-state thesis, summary, and logical conclusion).
3. Do not read from notes for any extended length of time although it is quite acceptable to glance at your notes infrequently. Speak loudly and clearly. Sound confident. Do not mumble. If you made an error, correct it, and continue. No need to make excuses or apologize profusely.
4. Maintain sincere eye contact with your audience. Use the 3-second method, e.g. look straight into the eyes of a person in the audience for 3 seconds at a time. Have direct eye contact with a number of people in the audience, and every now and then glance at the whole audience while speaking. Use your eye contact to make everyone in your audience feel involved.
Speak to your audience, listen to their questions, respond to their reactions, adjust and adapt. If what you have prepared is obviously not getting across to your audience, change your strategy mid-stream if you are well prepared to do so. Remember that communication is the key to a successful presentation. If you are short of time, know what can be safely left out. If you have extra time, know what could be effectively added. Always be prepared for the unexpected.
Pause. Allow yourself and your audience a little time to reflect and think. Don't race through your presentation and leave your audience, as well as yourself, feeling out of breath.
Add humor whenever appropriate and possible. Keep audience interested throughout your entire presentation. Remember that an interesting speech makes time fly, but a boring speech is always too long to endure even if the presentation time is the same.
When using audio-visual aids to enhance your presentation, be sure all necessary equipment is set up and in good working order prior to the presentation. If possible, have an emergency backup system readily available. Check out the location ahead of time to ensure seating arrangements for audience, whiteboard, blackboard, lighting, location of projection screen, sound system, etc. are suitable for your presentation.
Have handouts ready and give them out at the appropriate time. Tell audience ahead of time that you will be giving out an outline of your presentation so that they will not waste time taking unnecessary notes during your presentation.
Know when to STOP talking. Use a timer or the microwave oven clock to time your presentation when preparing it at home. Just as you don't use unnecessary words in your written paper, you don't bore your audience with repetitious or unnecessary words in your oral presentation. To end your presentation, summarize your main points in the same way as you normally do in the CONCLUSION of a written paper. Remember, however, that there is a difference between spoken words appropriate for the ear and formally written words intended for reading. Terminate your presentation with an interesting remark or an appropriate punch line. Leave your listeners with a positive impression and a sense of completion. Do not belabor your closing remarks. Thank your audience and sit down.
Have the written portion of your assignment or report ready for your instructor if required.
References
http://ohioline.osu.edu/4h-fact/0017.html
http://www.aresearchguide.com/3tips.html
http://www.stks.or.th/blog/?tag
http://blog.eduzones.com/offy/3870
http://www.pushthekey.com/2009/01/09/good-public-speaking-principles/
http://www.rogerdarlington.co.uk/Presentation.html
How to make god presentation
1. Do use PowerPoint if the facilities are available. Although some speakers seem to have taken an aversion to PowerPoint, it is so convenient and ensures that your presentation has a clear structure and something for your listeners to take away.
2. Be very clear about how much time you have and stick to that time in preparing your presentation. It's very difficult to 'cut' a PowerPoint presentation at the event itself, so it's a great mistake to run out of time. Most presenters prepare too much material; but nobody ever complains that a presentation was too short (it always allows more time for questions).
3. Be very clear about your key message and ensure that everything in your presentation is both consistent with, and supportive of, that key message. You should be able to articulate the message in a phrase or a sentence and indeed you might want to use that phrase or sentence in one of your first slides, or one of your last, or even both.
4. E-mail your presentation to the event organizers in advance. Ask them to load it onto a laptop, run it through, check that it looks fine, and confirm that with you. Then you don't have to worry about the technology when you arrive at the venue; you can concentrate on the delivery of your material. Also it enables the event's organizers to run off copies of your slides, so that they are available to them in good time.
5. The first slide should announce the title of your presentation, the event and date, and your name and position. This may seem terribly obvious, but many speakers miss off some of this basic information and then weeks later listeners (or their colleagues back at the organization) are not clear who made the presentation or when. You should try to make the title catchy, so that you immediately have the interest of your audience. A challenging question works well - for instance, a presentation on the global economic crisis might ask: "Is this the end of capitalism as we've known it?" Or a play on words works too - for example, a presentation on next generation broadband could be titled "The Slow Arrival of Fast Broadband".
6. The second slide should seize the attention of your audience for your presentation. It could be the central proposition of your presentation or a conventional wisdom that you wish to challenge or a relevant or witty quote from a leader in your field. If it is amusing or controversial or both, so much the better.
7. The third slide should set out the structure of your presentation. The default structure should consist of three themes that you intend to examine. For a very short presentation, there might only be time for two; if you want to look at more than five areas, write a book instead.
8. Each theme should be the subject of a small number of slides. Again, a good working assumption is that three slides for each them is about right. Less than two and it isn't substantive enough to be a separate theme; more than five and it should probably be broken up into two themes.
9. Each slide should have clear heading. A question is often a good way of winning attention - but, in that case, making sure you answer the question in the body of the slide.
10. Each slide should normally contain around 25-35 words, unless it is a quote (when you might use more) or contains an illustration (when you will probably use less). Too many words and your audience will have trouble reading the material; too few words and you're likely to be flashing through the slides and spending too much time clicking the mouse.
11. Each bullet point should consist of an intelligible phrase, rather than merely a word or two that is meaningless on its own or conversely a complete sentence that is better delivered orally. So, for instance, do use "Focus on profitable and growing markets" rather than simply "Focus" or "Markets" or "It is necessary to focus on those markets which are profitable and growing rather than those which are loss-making and declining". Consider this test: your slides should make sense and be useful to someone who was not present at your presentation.
12. Make appropriate use of pictures. It's a good idea to break up text with illustrations and it is true that a picture is worth a thousand words.
13. The last slide should set out all appropriate contact details: certainly e-mail address and possibly snail mail address, the web site of your organization, and any personal website or web log if you have one.
13. Make copies of your slides available. It is a matter of preference whether you do this at the beginning of your presentation or at the end. If your listeners have copies at the beginning, they can take notes simply by annotating the slides, instead of having to note down all the information on the slides. On the other hand, you might feel that, if they can see in advance the slides you are going to use, you lose the element of control or surprise. It might depend on the content of the presentation: if you are going to show detailed tables or graphs with lots of figures, your audience will probably find it easier to have a copy on their lap. It might depend on the circumstances of the presentation: if there is a large audience, people at the back may not be able to see the screen clearly and would really appreciate having copies of the slides.
Presentation Tips for Public Speaking
Know the needs of your audience and match your contents to their needs. Know your material thoroughly. Put what you have to say in a logical sequence. Ensure your speech will be captivating to your audience as well as worth their time and attention. Practice and rehearse your speech at home or where you can be at ease and comfortable, in front of a mirror, your family, friends or colleagues. Use a tape-recorder and listen to yourself. Videotape your presentation and analyze it. Know what your strong and weak points are. Emphasize your strong points during your presentation.
When you are presenting in front of an audience, you are performing as an actor is on stage. How you are being perceived is very important. Dress appropriately for the occasion. Be solemn if your topic is serious. Present the desired image to your audience. Look pleasant, enthusiastic, confident, proud, but not arrogant. Remain calm. Appear relaxed, even if you feel nervous. Speak slowly, enunciate clearly, and show appropriate emotion and feeling relating to your topic. Establish rapport with your audience. Speak to the person farthest away from you to ensure your voice is loud enough to project to the back of the room. Vary the tone of your voice and dramatize if necessary. If a microphone is available, adjust and adapt your voice accordingly.
1. Body language is important. Standing, walking or moving about with appropriate hand gesture or facial expression is preferred to sitting down or standing still with head down and reading from a prepared speech. Use audio-visual aids or props for enhancement if appropriate and necessary. Master the use of presentation software such as PowerPoint well before your presentation. Do not over-dazzle your audience with excessive use of animation, sound clips, or gaudy colors which are inappropriate for your topic. Do not torture your audience by putting a lengthy document in tiny print on an overhead and reading it out to them.
2. Speak with conviction as if you really believe in what you are saying. Persuade your audience effectively. The material you present orally should have the same ingredients as that which are required for a written research paper, i.e. a logical progression from INTRODUCTION (Thesis statement) to BODY (strong supporting arguments, accurate and up-to-date information) to CONCLUSION (re-state thesis, summary, and logical conclusion).
3. Do not read from notes for any extended length of time although it is quite acceptable to glance at your notes infrequently. Speak loudly and clearly. Sound confident. Do not mumble. If you made an error, correct it, and continue. No need to make excuses or apologize profusely.
4. Maintain sincere eye contact with your audience. Use the 3-second method, e.g. look straight into the eyes of a person in the audience for 3 seconds at a time. Have direct eye contact with a number of people in the audience, and every now and then glance at the whole audience while speaking. Use your eye contact to make everyone in your audience feel involved.
Speak to your audience, listen to their questions, respond to their reactions, adjust and adapt. If what you have prepared is obviously not getting across to your audience, change your strategy mid-stream if you are well prepared to do so. Remember that communication is the key to a successful presentation. If you are short of time, know what can be safely left out. If you have extra time, know what could be effectively added. Always be prepared for the unexpected.
Pause. Allow yourself and your audience a little time to reflect and think. Don't race through your presentation and leave your audience, as well as yourself, feeling out of breath.
Add humor whenever appropriate and possible. Keep audience interested throughout your entire presentation. Remember that an interesting speech makes time fly, but a boring speech is always too long to endure even if the presentation time is the same.
When using audio-visual aids to enhance your presentation, be sure all necessary equipment is set up and in good working order prior to the presentation. If possible, have an emergency backup system readily available. Check out the location ahead of time to ensure seating arrangements for audience, whiteboard, blackboard, lighting, location of projection screen, sound system, etc. are suitable for your presentation.
Have handouts ready and give them out at the appropriate time. Tell audience ahead of time that you will be giving out an outline of your presentation so that they will not waste time taking unnecessary notes during your presentation.
Know when to STOP talking. Use a timer or the microwave oven clock to time your presentation when preparing it at home. Just as you don't use unnecessary words in your written paper, you don't bore your audience with repetitious or unnecessary words in your oral presentation. To end your presentation, summarize your main points in the same way as you normally do in the CONCLUSION of a written paper. Remember, however, that there is a difference between spoken words appropriate for the ear and formally written words intended for reading. Terminate your presentation with an interesting remark or an appropriate punch line. Leave your listeners with a positive impression and a sense of completion. Do not belabor your closing remarks. Thank your audience and sit down.
Have the written portion of your assignment or report ready for your instructor if required.
References
http://ohioline.osu.edu/4h-fact/0017.html
http://www.aresearchguide.com/3tips.html
http://www.stks.or.th/blog/?tag
http://blog.eduzones.com/offy/3870
http://www.pushthekey.com/2009/01/09/good-public-speaking-principles/
http://www.rogerdarlington.co.uk/Presentation.html
Persuasive Speaking
Topic: Clothing Donation
General Purpose: To motivate
Specific Purpose: To persuade my audience to donate their clothing or money for
helping natural disaster victims.
Thesis statement: Sharing something for other people is a good thing. It is very
easy when you want to be a donor.
Introduction
A. Gaining Attention
Good morning ladies and gentlemen. Today I’m here to share my view with you on “Clothing Donation.” I hope you will be lending a hand to someone that suffering from terribly cold.
B. Motivating the Audience
Ladies and gentlemen, how do you feel when you see someone is suffering from natural disasters? Every year in the winter (October-January), there are over 10 millions that meet problems from natural disaster. Half of them are hill tribe people. They live far away from city. They lack the four necessities for living, and clothing is the most important for them in the winter. You know, they are suffering from terribly cold.
C. Relevance
One of the natural disaster victim and who are waiting for your helping might be someone you know.
D. Preview of Maim Ideas
Today I am going to talk who are suffering from terribly cold, second, where you can donate, and finally, what and how to you can donate.
BodyA. Who are suffering from terribly cold?
1. The statistics from Department of Prevent and Relieve Public Hazard of the last year, there are 19 provinces, 236 Amphurs, 20,604 Tombols, over 10 millions people.
2. There are 8 provinces in the northern of Thailand such as Chiang Rai, Chiang Mai, Mae Hong Son, Lam Phun, Lam Pang, Phrae, Nan, Pa Yao.
3. There are 11 provinces in the northeastern of Thailand such as Loey, Ubon Ratchathani, Srisaket, Sakon Nakhon, Nong Khai, Mukda Han, Nakhon Phanom, Yasothon, Roiet, Nongbua Lamphoo, Maha Sarakham.
B. Where can you donate?
1. The bank: Krajokngao Art, Krung Thai Bank, Saving account, Maesaraing Branch No. 509-0-13688-2 Tel. 053-681329.
Siam First Foundation, Bangkok Bank, Saving account, Hualampong Branch No. 155-2-06753-2, Tel.02-6330411.
2. Saving center: VR Saving center Nong Khai or Mr. SIrichai Watthanachart Manager of VR Saving center Nong Khai. Tel.089-8415050
The Krajokngao Art and Cultural Group 106 Moo1, Tambol Mae Yao, Chiang Rai 57100
3. Web side: www.envcorp.org
www.ThaiPR.net
www.hilltribe.org
C. What and how to you can donate.
1. Clothing that you should donate are money and both of new and second clothing such as woolen coat, hat, scarf, trousers, quilt, glove, socks, footwear, ect.
2. 5 steps how to you can donate. First of all, find a reputable Organization that accepts clothing donation to help victims from natural disasters, then, visit their web side for more information, after that, contact charities and Organization that help victims from natural disasters, and then, pack into sturdy boxes, finally, take them to the Organization that you want to donate or sent them to address of that Organization.
ConclusionA. Signaling the End
Ok, that’s all I wanted to say about Clothing Donation.
B. Review of Maim point
I have discussed who are suffering from terribly cold, second, where you can donate, and finally, what and how to you can donate.
C. Reference to Introduction
Every year in the winter (October-January), there are over 10 millions that meet problems from natural disaster. They lack the four necessities for living, and clothing is the most important for them in the winter.
D. Ending with Impact
One of the natural disaster victim and who are waiting for your helping might be someone you know. Imagine if you were natural disaster victims and suffer from terribly cold what will you feel?
HandoutWhere you can donate
1. The bank -Krajokngao Art, Krung Thai Bank, Saving account, Maesaraing Branch No. 509-0-13688-2 Tel. 053-681329.
-Siam First Foundation, Bangkok Bank, Saving account, Hualampong Branch No. 155-2-06753-2, Tel.02-6330411.
2. Saving center -VR Saving center Nong Khai or Mr. SIrichai Watthanachart Manager of VR Saving center Nong Khai. Tel.089-8415050
-The Krajokngao Art and Cultural Group 106 Moo1, Tambol Mae Yao, Chiang Rai 57100
3. Web side www.envcorp.org
www.ThaiPR.net
www.hilltribe.org
General Purpose: To motivate
Specific Purpose: To persuade my audience to donate their clothing or money for
helping natural disaster victims.
Thesis statement: Sharing something for other people is a good thing. It is very
easy when you want to be a donor.
Introduction
A. Gaining Attention
Good morning ladies and gentlemen. Today I’m here to share my view with you on “Clothing Donation.” I hope you will be lending a hand to someone that suffering from terribly cold.
B. Motivating the Audience
Ladies and gentlemen, how do you feel when you see someone is suffering from natural disasters? Every year in the winter (October-January), there are over 10 millions that meet problems from natural disaster. Half of them are hill tribe people. They live far away from city. They lack the four necessities for living, and clothing is the most important for them in the winter. You know, they are suffering from terribly cold.
C. Relevance
One of the natural disaster victim and who are waiting for your helping might be someone you know.
D. Preview of Maim Ideas
Today I am going to talk who are suffering from terribly cold, second, where you can donate, and finally, what and how to you can donate.
BodyA. Who are suffering from terribly cold?
1. The statistics from Department of Prevent and Relieve Public Hazard of the last year, there are 19 provinces, 236 Amphurs, 20,604 Tombols, over 10 millions people.
2. There are 8 provinces in the northern of Thailand such as Chiang Rai, Chiang Mai, Mae Hong Son, Lam Phun, Lam Pang, Phrae, Nan, Pa Yao.
3. There are 11 provinces in the northeastern of Thailand such as Loey, Ubon Ratchathani, Srisaket, Sakon Nakhon, Nong Khai, Mukda Han, Nakhon Phanom, Yasothon, Roiet, Nongbua Lamphoo, Maha Sarakham.
B. Where can you donate?
1. The bank: Krajokngao Art, Krung Thai Bank, Saving account, Maesaraing Branch No. 509-0-13688-2 Tel. 053-681329.
Siam First Foundation, Bangkok Bank, Saving account, Hualampong Branch No. 155-2-06753-2, Tel.02-6330411.
2. Saving center: VR Saving center Nong Khai or Mr. SIrichai Watthanachart Manager of VR Saving center Nong Khai. Tel.089-8415050
The Krajokngao Art and Cultural Group 106 Moo1, Tambol Mae Yao, Chiang Rai 57100
3. Web side: www.envcorp.org
www.ThaiPR.net
www.hilltribe.org
C. What and how to you can donate.
1. Clothing that you should donate are money and both of new and second clothing such as woolen coat, hat, scarf, trousers, quilt, glove, socks, footwear, ect.
2. 5 steps how to you can donate. First of all, find a reputable Organization that accepts clothing donation to help victims from natural disasters, then, visit their web side for more information, after that, contact charities and Organization that help victims from natural disasters, and then, pack into sturdy boxes, finally, take them to the Organization that you want to donate or sent them to address of that Organization.
ConclusionA. Signaling the End
Ok, that’s all I wanted to say about Clothing Donation.
B. Review of Maim point
I have discussed who are suffering from terribly cold, second, where you can donate, and finally, what and how to you can donate.
C. Reference to Introduction
Every year in the winter (October-January), there are over 10 millions that meet problems from natural disaster. They lack the four necessities for living, and clothing is the most important for them in the winter.
D. Ending with Impact
One of the natural disaster victim and who are waiting for your helping might be someone you know. Imagine if you were natural disaster victims and suffer from terribly cold what will you feel?
HandoutWhere you can donate
1. The bank -Krajokngao Art, Krung Thai Bank, Saving account, Maesaraing Branch No. 509-0-13688-2 Tel. 053-681329.
-Siam First Foundation, Bangkok Bank, Saving account, Hualampong Branch No. 155-2-06753-2, Tel.02-6330411.
2. Saving center -VR Saving center Nong Khai or Mr. SIrichai Watthanachart Manager of VR Saving center Nong Khai. Tel.089-8415050
-The Krajokngao Art and Cultural Group 106 Moo1, Tambol Mae Yao, Chiang Rai 57100
3. Web side www.envcorp.org
www.ThaiPR.net
www.hilltribe.org
Presentation
Foremost Milk
Introduction
Good morning ladies and gentlemen. I’m happy that so many of you could make it today. Let me introduce my self. My name’s Kanoknapa Sriwatthanasakunchai. I’m here in my function as the marketing manager of Foremost Company. I’m going to talk about “usefulness for drinking Foremost.” My topic will be important for you because all of you need to drink 2 cups of milk every day. The purpose of this presentation is to tell you why you should choose Foremost milk to drink. I’ll focus on three major issues. First of all, I’ll be looking at usefulness from Foremost milk to your bone, the second, usefulness from Foremost milk to your skin, and the third, usefulness from Foremost milk to your health. It will take about 5 minutes to cover these issues. Don’t worry about taking notes. I’ve put all the important statistics on a handout for you. Feel free to ask questions at any time during my talk.
The middle/main point
So, let me start with taking about usefulness from Foremost milk to your bone. A cup of Foremost milk contains high Calcium and Phosphorus to make your bone strong. For children, high Calcium and Phosphorus will reinforce their bones, make them tall and grow up fast. For adult, high Calcium and Phosphorus will repair their bones and strengthen them. This brings me to the end of the first point. Let’s now move on to usefulness from Foremost milk for your skin. High Protein from Foremost milk softens and moisturizes your skin. Foremost milk is also riches in Vitamins to aid in keeping skin fresh and healthy. This brings me to the last issue. It’s useful for your health. Foremost milk contains high Calcium, Phosphorus, Vitamin, Protein and low Fat. All of them will make you healthy. In addition to this, I’d like to advice you some tips to have. You can have more beautiful skin by drinking milk and scrubbing your skin with milk softly. You can mix it with tamarind and honey, and then, leave the mixture on your skin for 5-15 minutes. So, what conclusion can we draw from this?
Conclusion Well, this brings me to the end of my presentation. Before I stop, let me go over the key issues again. Foremost milk is useful for bone, your skin, and your health. I’d suggest everybody drink 2 cups of Foremost milk everyday. And now, I’ll be happy to answer any question you may have.
Handout
Usefulness from Foremost milk
1. Calcium and Phosphorus for bone.
-Make your bone strong.
-For children will reinforce their bone, make them tall and grow up fast.
-For senile will repair their bone and strengthen them
2. Protein and Vitamin for your skin.
- Protein softens and moisturizes your skin.
- Vitamin to aid in keeping skin fresh and healthy.
3. All of them for your health.
- Foremost milk contains Calcium, Phosphorus, Protein, Vitamin and low Fat. All of them will make you healthy.
* Tip for more beautiful skin.
Drinking milk and scrubbing your skin with milk softly. You can mix it with tamarind and honey, and then, leave the mixture on your skin for 1-15 minutes.
Introduction
Good morning ladies and gentlemen. I’m happy that so many of you could make it today. Let me introduce my self. My name’s Kanoknapa Sriwatthanasakunchai. I’m here in my function as the marketing manager of Foremost Company. I’m going to talk about “usefulness for drinking Foremost.” My topic will be important for you because all of you need to drink 2 cups of milk every day. The purpose of this presentation is to tell you why you should choose Foremost milk to drink. I’ll focus on three major issues. First of all, I’ll be looking at usefulness from Foremost milk to your bone, the second, usefulness from Foremost milk to your skin, and the third, usefulness from Foremost milk to your health. It will take about 5 minutes to cover these issues. Don’t worry about taking notes. I’ve put all the important statistics on a handout for you. Feel free to ask questions at any time during my talk.
The middle/main point
So, let me start with taking about usefulness from Foremost milk to your bone. A cup of Foremost milk contains high Calcium and Phosphorus to make your bone strong. For children, high Calcium and Phosphorus will reinforce their bones, make them tall and grow up fast. For adult, high Calcium and Phosphorus will repair their bones and strengthen them. This brings me to the end of the first point. Let’s now move on to usefulness from Foremost milk for your skin. High Protein from Foremost milk softens and moisturizes your skin. Foremost milk is also riches in Vitamins to aid in keeping skin fresh and healthy. This brings me to the last issue. It’s useful for your health. Foremost milk contains high Calcium, Phosphorus, Vitamin, Protein and low Fat. All of them will make you healthy. In addition to this, I’d like to advice you some tips to have. You can have more beautiful skin by drinking milk and scrubbing your skin with milk softly. You can mix it with tamarind and honey, and then, leave the mixture on your skin for 5-15 minutes. So, what conclusion can we draw from this?
Conclusion Well, this brings me to the end of my presentation. Before I stop, let me go over the key issues again. Foremost milk is useful for bone, your skin, and your health. I’d suggest everybody drink 2 cups of Foremost milk everyday. And now, I’ll be happy to answer any question you may have.
Handout
Usefulness from Foremost milk
1. Calcium and Phosphorus for bone.
-Make your bone strong.
-For children will reinforce their bone, make them tall and grow up fast.
-For senile will repair their bone and strengthen them
2. Protein and Vitamin for your skin.
- Protein softens and moisturizes your skin.
- Vitamin to aid in keeping skin fresh and healthy.
3. All of them for your health.
- Foremost milk contains Calcium, Phosphorus, Protein, Vitamin and low Fat. All of them will make you healthy.
* Tip for more beautiful skin.
Drinking milk and scrubbing your skin with milk softly. You can mix it with tamarind and honey, and then, leave the mixture on your skin for 1-15 minutes.
5/9/52
The Old Man’s Paradise
บทละครเรื่องสั้นความยาว 10 นาที (A short playscript)
Opening
Announcer : Ladies and gentlemen. Today’s program is based on a story by Mr.Yuthtachak.
We proudly present this story of “The Old Man’s Paradise.”
Please welcome our perfermance.
Scene 1 : The living room
Narrator: One afternoon at the old man’s house. In the living room, the old man sitting on the chair is crying and feeling blue because his wife died immediately.
Grandpa: Oh!...Darling. Life is so short. We have promised that we will be together ever and never. (Goes on crying)
Narrator: Three days later. The old man is still crying. The nephew is too concerned about him. He wants to help his grandfather get through this sorrow easily.
Grandpa: Hoh… Hoh… Hoh… (Crying and holding his wife’s picture tightly)
Nephew: What shall I do to help Grandpa to be happy soon? (Thinking out loud) Oh!... I see. I have some thoughts. I will take him to the best pub. If he sees some enjoyable things, he will forget the sadness and feel younger once again. (Laughes a little and goes straight to Grandpa)… Don’t be sad, Grandpa. I have a good idea. It will be able to make you happy. You certainly will forget the Grandma’s death.
Grandpa: No!... I’ll never forget your grandma. Never!... Leave me alone, please. (Hugs the picture more tightly)
Nephew: I will take you to the pub and see many pretty girls. What do you think about that?Grandpa: Well…(Be interested) I’ll go with you. Don’t make me disappointed, son.
Nephew: Sure!... You can trust me.
Scene 2 : The pub (Turns on the music)
Narrator: The nephew and his grandfather arrive at the best pub in town. They have a seat at the corner. In this place there are many people singing and dancing happily.
Nephew: Is it a good pub?
Grandpa: Oh! yeah. It’s very wonderful. I’m very excited.
(For a while, two pretty girls walk to them.)
Girl 1: Can I join with you, sweety? (Talks to the nephew)
Girl 2: Come on, dear. Let’s get drunk and enjoy allnight. (Talks to the grandfather)
Girl 1: That’s right. We will help you to forget everything. (Talks to them)
Grandpa: Wow… Excellent! I love it. (Picks up his wife’s picture from his wallet and tears it) Goodbye honey. See you in the heaven.
Narrator: Both Grandpa and the nephew are drinking and dancing till the pub closes. They have to say good-bye to the girls right now. (Turns off the music)
Grandpa: Goodbye honey. I’ve got to go home now.
Girl 2: Good night and see you next time, sweety.
Scene 3 : In the bedroom
Narrator: The next day, the grandfather wants to come back to the pub again. But this time he doesn’t want his nephew to be with him.
Nephew: Would you like to go out tonight?
Grandpa: Sorry, I’m afraid I’m sick. I’m feeling bad. Maybe I’ve got a cold. (Coughes a little) Thanks, son.
Nephew: That’s OK. I think you should take a rest. Well… I gotta go now. Bye-bye, grandpa. (Goes out)
Grandpa: He’s gone already. That’s great!... (Laughing aloud)
Grandpa: Well… I have to get dressed. (Puts on the clothes) Oh! My dear mirror. Who’s the most handsome man tonight? (Goes on laughing) It’s me. Who else could it be?
Scene 4 : The pub (Turns on the music)
Narrator: The grandfather goes to the pub alone. He enjoys drinking lots of drinks and dancing with pretty girls. So he forgets about his heart trouble.
Girl 1: Well… What place you gonna go next?
Grandpa: Oh!... (Heart attack and Lies down on the floor) “H-o-s-p-i-t-a-l”… (Talks very softly and slowly)
Girl 1: Hospital?... (Be frightened) What?... The hospital? Are you sure? You-go to-the hospital.
Grandpa: Ouch!
(The girl2 enters and sits beside the grandfather.)
Girl 2: What’s the matter?
Girl 1: Hurry up!... He is going to die. Please call the doctor quickly.
Girl 2: Help!... Somebody help!... (Shouting) Please call the doctor. Someone is going to die.
(The ambulance takes him to the nearest hospital in a hurry.)
Scene 5 : The hospital
Narrator: In the ICU room. The doctor is taking charge of the grandfather.
Doctor: Well, let me see you. How do you feel? Do you feel better? You know…you’re so lucky that you come to see me in time. (Looking for someone) Where are your relatives? Why didn’t... (The nephew goes into the room before the doctor finishes talking.)
Nephew: Grandpa, what’s up?... I’m too worried about you.
Grandpa: I’m all right. Don’t worry about me.
Nephew: I’m so sorry. It’s my mistake.
Grandpa: Don’t blame yourself.
Doctor: I agree with him. (Talks to the nephew) He gets better and looks very well. He will be fine soon. I will call a nurse to look after him. Okay? (Goes to call the nurse… and then the nurse is coming to the patient’s bed in a sexy suit.)
Nurse: Let me check you closely. (Testing the body temperature) Open your mouth please. (The nurse bends down closely.)
Grandpa: Your.. your…breast……….big ,… bigger…breast ! (Pointing… Then the grandfather shocks and dies with a smile on his face.)
Nephew: Grandpa!.. Grandpa!.. (Shaking his arm) What’s the matter with you ? (Looking for the doctor) Nurse!.. (Shouts to the nurse.) Call the doctor, please.
Nurse: Doctor!.. (Yelling and the doctor goes into the room swiftly.)
Doctor: What’s going on? (Checking his pulse) Oh!... I’m really sorry. I can’t help him anymore. He dies contently. You see… he looks happy. (The doctor and the nurse are laughing to each other while the nephew is so confused.)
Closing
Announcer : You have just heard a play entitled “The Old Man’s Paradise” suggested by a story of
Mr.Yuthtachak. Taking part in today’s play were the following persons :
Mr. ยุทธจักร จำปาแก้ว The author of this story. as The Grandfather
Mr. ณัฐดนัย แจ้งไพร as The Nephew
Miss จิตรดา โง่นใหญ่ as The Pretty Girl
Miss ปุณยวัจน์ นมัสศิลา as The Pretty Girl
Miss กนกนภา ศรีวัฒนสกุลชัย as The Doctor
Miss อารีย์ วิลัยกรวด as The Nurse
Mr. ปกรณ์เกียรติ สิริธนบูรณ์ as The Ambulance
And me. Miss Rattiya Sukantamala as The Announcer and Narrator.
Thank you. (Talks together)
Announcer : Ladies and gentlemen. Today’s program is based on a story by Mr.Yuthtachak.
We proudly present this story of “The Old Man’s Paradise.”
Please welcome our perfermance.
Scene 1 : The living room
Narrator: One afternoon at the old man’s house. In the living room, the old man sitting on the chair is crying and feeling blue because his wife died immediately.
Grandpa: Oh!...Darling. Life is so short. We have promised that we will be together ever and never. (Goes on crying)
Narrator: Three days later. The old man is still crying. The nephew is too concerned about him. He wants to help his grandfather get through this sorrow easily.
Grandpa: Hoh… Hoh… Hoh… (Crying and holding his wife’s picture tightly)
Nephew: What shall I do to help Grandpa to be happy soon? (Thinking out loud) Oh!... I see. I have some thoughts. I will take him to the best pub. If he sees some enjoyable things, he will forget the sadness and feel younger once again. (Laughes a little and goes straight to Grandpa)… Don’t be sad, Grandpa. I have a good idea. It will be able to make you happy. You certainly will forget the Grandma’s death.
Grandpa: No!... I’ll never forget your grandma. Never!... Leave me alone, please. (Hugs the picture more tightly)
Nephew: I will take you to the pub and see many pretty girls. What do you think about that?Grandpa: Well…(Be interested) I’ll go with you. Don’t make me disappointed, son.
Nephew: Sure!... You can trust me.
Scene 2 : The pub (Turns on the music)
Narrator: The nephew and his grandfather arrive at the best pub in town. They have a seat at the corner. In this place there are many people singing and dancing happily.
Nephew: Is it a good pub?
Grandpa: Oh! yeah. It’s very wonderful. I’m very excited.
(For a while, two pretty girls walk to them.)
Girl 1: Can I join with you, sweety? (Talks to the nephew)
Girl 2: Come on, dear. Let’s get drunk and enjoy allnight. (Talks to the grandfather)
Girl 1: That’s right. We will help you to forget everything. (Talks to them)
Grandpa: Wow… Excellent! I love it. (Picks up his wife’s picture from his wallet and tears it) Goodbye honey. See you in the heaven.
Narrator: Both Grandpa and the nephew are drinking and dancing till the pub closes. They have to say good-bye to the girls right now. (Turns off the music)
Grandpa: Goodbye honey. I’ve got to go home now.
Girl 2: Good night and see you next time, sweety.
Scene 3 : In the bedroom
Narrator: The next day, the grandfather wants to come back to the pub again. But this time he doesn’t want his nephew to be with him.
Nephew: Would you like to go out tonight?
Grandpa: Sorry, I’m afraid I’m sick. I’m feeling bad. Maybe I’ve got a cold. (Coughes a little) Thanks, son.
Nephew: That’s OK. I think you should take a rest. Well… I gotta go now. Bye-bye, grandpa. (Goes out)
Grandpa: He’s gone already. That’s great!... (Laughing aloud)
Grandpa: Well… I have to get dressed. (Puts on the clothes) Oh! My dear mirror. Who’s the most handsome man tonight? (Goes on laughing) It’s me. Who else could it be?
Scene 4 : The pub (Turns on the music)
Narrator: The grandfather goes to the pub alone. He enjoys drinking lots of drinks and dancing with pretty girls. So he forgets about his heart trouble.
Girl 1: Well… What place you gonna go next?
Grandpa: Oh!... (Heart attack and Lies down on the floor) “H-o-s-p-i-t-a-l”… (Talks very softly and slowly)
Girl 1: Hospital?... (Be frightened) What?... The hospital? Are you sure? You-go to-the hospital.
Grandpa: Ouch!
(The girl2 enters and sits beside the grandfather.)
Girl 2: What’s the matter?
Girl 1: Hurry up!... He is going to die. Please call the doctor quickly.
Girl 2: Help!... Somebody help!... (Shouting) Please call the doctor. Someone is going to die.
(The ambulance takes him to the nearest hospital in a hurry.)
Scene 5 : The hospital
Narrator: In the ICU room. The doctor is taking charge of the grandfather.
Doctor: Well, let me see you. How do you feel? Do you feel better? You know…you’re so lucky that you come to see me in time. (Looking for someone) Where are your relatives? Why didn’t... (The nephew goes into the room before the doctor finishes talking.)
Nephew: Grandpa, what’s up?... I’m too worried about you.
Grandpa: I’m all right. Don’t worry about me.
Nephew: I’m so sorry. It’s my mistake.
Grandpa: Don’t blame yourself.
Doctor: I agree with him. (Talks to the nephew) He gets better and looks very well. He will be fine soon. I will call a nurse to look after him. Okay? (Goes to call the nurse… and then the nurse is coming to the patient’s bed in a sexy suit.)
Nurse: Let me check you closely. (Testing the body temperature) Open your mouth please. (The nurse bends down closely.)
Grandpa: Your.. your…breast……….big ,… bigger…breast ! (Pointing… Then the grandfather shocks and dies with a smile on his face.)
Nephew: Grandpa!.. Grandpa!.. (Shaking his arm) What’s the matter with you ? (Looking for the doctor) Nurse!.. (Shouts to the nurse.) Call the doctor, please.
Nurse: Doctor!.. (Yelling and the doctor goes into the room swiftly.)
Doctor: What’s going on? (Checking his pulse) Oh!... I’m really sorry. I can’t help him anymore. He dies contently. You see… he looks happy. (The doctor and the nurse are laughing to each other while the nephew is so confused.)
Closing
Announcer : You have just heard a play entitled “The Old Man’s Paradise” suggested by a story of
Mr.Yuthtachak. Taking part in today’s play were the following persons :
Mr. ยุทธจักร จำปาแก้ว The author of this story. as The Grandfather
Mr. ณัฐดนัย แจ้งไพร as The Nephew
Miss จิตรดา โง่นใหญ่ as The Pretty Girl
Miss ปุณยวัจน์ นมัสศิลา as The Pretty Girl
Miss กนกนภา ศรีวัฒนสกุลชัย as The Doctor
Miss อารีย์ วิลัยกรวด as The Nurse
Mr. ปกรณ์เกียรติ สิริธนบูรณ์ as The Ambulance
And me. Miss Rattiya Sukantamala as The Announcer and Narrator.
Thank you. (Talks together)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)