5/9/51

เรื่องกล้วยๆ ที่ไม่กล้วย


วันนี้หยิบกล้วยมากิน สังเกตว่าเป็น กล้วยแฝด แผด 2 แฝด 3 ด้วย วันนี้เอาเรื่องของกล้วยมาฝากกัน กล้วยมีสารน้ำตาลอยู่ 3 ชนิดคือ ซุคโคส ฟรุคโตส และ กลูโคส (sucrose, fructose and glucose) รวมทั้ง เส้นใยอาหาร ให้พลังงานแก่ร่างกายพร้อมนำไปใช้ทันทีเขาวิจัยมาแล้วว่ากล้วยหอม 2 ใบให้พลังงานเพียงพอให้เราทำงานถึง 90 นาที ไม่ต้องสงสัยเลยที่ นักกีฬาระดับโลกถึงชอบกินกล้วยหอมกันนัก (เคยเห็นในสนามเทนนิส....พอพักเบรคบางคนหยิบกล้วยหอม มากัดกินสัก 2-3 คำ) ยังไม่หมดนะ เจ้ากล้วยยังมีคุณอนันต์ ป้องกันโรคภัยและภาวะต่าง ๆ ของร่างกายได้อีกด้วย มาดูกัน

1.ความเศร้าซึม จากการสำรวจและวิจัยไต่ถามพร้อมสุ่มตัวอย่างจากคนไข้ ที่ป่วยเป็นโรคเศร้าซีม พบว่าส่วนใหญ่จะรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้กินกล้วยหอม เพราะว่ามี tryptophan ซึ่งเป็นกรดอะมิโน โปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งร่างกายสามารถแปลงเป็น serotonin สารกระตุ้นที่ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์สดใส และมีความสุขมากยิ่งขึ้น

2.pms (premenstrualsyndrome) สำหรับสุภาพสตรีแล้วก่อนที่จะมีประจำเดือน อารมณ์จะหงุดหงิดง่าย ไม่อยู่กับร่องรอยและก่อให้เกิดสภาวะต่อร่างกาย เช่นปวดท้อง ปวดหัว ฯลฯ รีบกินกล้วยหอมซะดี ๆ ยาแก้ปวดลืมไปได้เลย กล้วยหอมสามารถป้องกันได้

3.โรคโลหิตจาง (Anemia) ธาตุเหล็กในกล้วยหอมสามารถที่จะกระตุ้นร่างกายให้ผลิ ต Hemoglobin(ฮีโมโกลบิน) ในกระแสโลหิตช่วยหยุดยั้งภาวะ โลหิตจาง ได้

4.ความดันโลหิต (Blood Pressure) กล้วยหอมมี เกลือโปแตสเซียมเหลือง อยู่เยอะ เป็นตัวช่วยความดันเลือดจนกระทั่ง US Food and Drug Administration อนุมัติให้กล้วยหอมยอดผลไม้มีส่วนช่วยลดภาวะความเสี่ยงความดันได้จริง

5.เสริมสร้างพลังสมอง (Brain Power) ที่อังกฤษในแค้วน Middlesex มีนักเรียนจำนวน 200 คนจาก Twickenham school อ้างว่าพวกเขาสอบผ่าน เพราะได้กินกล้วยหอมเป็นอาหารเช้า รวมทั้งกินอีกนิดหน่อยในตอนมื้อเที่ยงเพื่อทำให้สมอง สดชื่น เขาได้วิจัยพบว่า โปแตสเซียม ในกล้วย ช่วยนักเรียนให้ตื่นตัวอยู่เสมอ

6.อาการ ท้องผูก (Constipation) เส้นใย อาหารในกล้วยหอมช่วยทำให้ ระบบขับถ่ายในร่างกาย ทำงานได้ดี

7.เมาค้าง (Hangovers) วิธีแก้เมาค้างที่เร็วและดีอีกวิธีหนึ่ง ก็คือกินกล้วยหอมปั่น banana milkshake โดยการใส่ น้ำผึ้ง ลงไปด้วย สรรพคุณของน้ำผึ้ง และสารวิตามินในกล้วยจะช่วยให้ปรับระดับน้ำตาลในเส้นเลือด และทำให้กระเพาะอาหารอยู่ในสภาวะที่พร้อมทำงานได้เร็วขึ้นจุกเสียดแน่นท้อง (Heartburn)กล้วยหอมมีสารลดกรดตามธรรมชาติอยู่ ดังนั้นการกินกล้วยก็จะช่วยให้ลดอาการดังกล่าว

8.Morning Sickness ตอนเช้า ไม่อยากจะตื่นบ้าง ถ้าเรากินกล้วยหอมสักคำ 2 คำ ระหว่างมื้อเช้า เที่ยงหรือเย็น จะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือด และแก้อาการดังกล่าวในตอนเช้าได้บรรเทา

9.แผลยุงกัด ก่อนที่จะใช้ยาทา ลองใช้ เปลือกกล้วยหอม ด้านในถูบริเวณที่ถูกยุงกัด จะช่วยลดอาการ คัน หรือ บวม ได้ คนส่วนใหญ่เป็นอย่าง นั้นจริง ๆ

10.ระบบประสาท (Nerves) วิตามินบี ที่มีอยู่มากในกล้วยหอมจะช่วยลดความเครียดอ่อนล้าได้

11.อ้วน จากทำงานมากเกินไป ที่สถาบันจิตวิทยาในออสเตรียได้ศึกษาและพบว่า ความเครียดจากที่ทำงานทำให้คนกิน ช็อคโกแล็ต และพวก โปเต้โต้ชิปส์ มากเกินไป ทำให้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้น จากที่กล่าวมาแล้วถ้ากินกล้วยหอมสักเล็ก ๆ น้อย ๆ ประมาณทุก ๆ 2 ชม.จะช่วยปรับ ระดับน้ำตาลในเลือด และลดการอยากกินของจุกจิก

12.แผลในลำไส้ และกระเพาะอาหาร รวมทั้งผิวหนังพุพองเป็นแผล (Ulcers) สารและเส้นใยในกล้วยหอมช่วยให้การย่อยอาหารของ ลำไส้เล็ก ดีขึ้น รวมทั้งกรดต่าง ๆ ที่มีอยู่ทำให้มีการเคลือบผิวของกระเพาะ ลดการเป็นแผลในกระเพาะได้

13.ปรับระดับอุณหภูมิในร่างกาย (Temperature Control) ในประเทศแถบเส้นศูนย์สูตรที่มีอากาศร้อนผู้คนชอบกินกล้วยหอมดับร้อนกันครับและเชื่อว่ามันเป็นผลไม้เย็นฉ่ำชนิดหนึ่ง อย่างเช่นในไทยมีความเชื่อกันว่า ผู้หญิงท้อง ควรกินกล้วยหอมเป็นประจำ เพื่อเด็กที่เกิดมาจะมีอารมณ์เยือกเย็น

14.ลดความอยากสูบบุหรี่ สำหรับท่านที่ต้องการ เลิกบุหรี่ กล้วยหอมอาจช่วยท่านได้เพราะมี วิตามิน B6, B12,โปแตสเซียม และ แม็กนีเซียม ที่มีอยู่มากจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วจากการขาดสาร นิโคติน

เปรียบเทียบกับแอปเปิ้ลแล้วกล้วยหอมมี โปรตีน มากกว่า 4 เท่า, มี คาร์โบไฮเดรท มากกว่า 2 เท่า, ฟอสฟลอรัส มากกว่า 3 เท่า, วิตามินเอ และ ธาตุเหล็ก มากกว่า 5 เท่า, วิตามิน และ เกลือแร่ ต่าง ๆ มากกว่า 2 เท่าดังนั้นจากที่ฝรั่งเคยพูดกันว่า "An apple a day keeps doctor away." ต่อไปคงจะต้องเปลี่ยนเป็น "A banana a day keeps doctor away." ซะแล้วมั๊ง

หนัง หรือ รองเท้าหนัง ถ้าอยากขัดให้มันวาวแบบเร็ว ๆ ก็เอาเปลือกกล้วยหอมด้านในถูรองเท้าไปเลยเสร็จแล้วเอาผ้าแห้งเช็ดขัดออก รองเท้าจะมันแผล็บเลยแต่ไม่ควรกินกล้วยขณะท้องว่าง เพราะกล้วยอุดมไปด้วยธาตุ แมกนีเซียม

การรับประทานกล้วย ขณะท้องว่าง จะทำให้ปริมาณ ธาตุแมกนีเซียม ในเลือดสูงขึ้น ทำให้สูญเสียสัดส่วนของ แคลเซียม และ แมกนีเซียม ไป เป็นการยับยั้งการทำงานของ หลอดเลือดหัวใจ เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง

ไม่มีความคิดเห็น: